วันนี้ 9:30 น. คณะผู้แทนสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และ คณะผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เข้าพบหลวงปู่ เจรจาเรื่องขอเข้าทำงาน
ซึ่งหลวงปู่แจ้งว่าไม่เคยปิดกั้นไม่ให้พวกคุณเข้าทำงาน พวกคุณออกไปกันเองต่างหาก ที่จริงน่าจะอยู่ด้วยกันตั้งแต่วันแรก หลวงปู่ และผู้ชุมนุมจะได้ไม่ถูกรังแก
พูดถึงเรื่องที่หลวงปู่ถูกฟ้องเกี่ยวกับปิดหน่วยเลือกตั้ง อย่างนี้หลวงปู่และผู้ชุมนุมถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือไม่ เพราะผู้ร้องทุกข์ เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ใช่ กกต. ไม่มีผลกระทบโดยตรง ไม่ใช่เจ้าทุกข์ ประเด็นแรก ฟ้องร้องโดยไม่เคยมีหมายเรียกมาก่อน อีกประเด็น หลวงปู่และผู้ชุมนุมไม่ได้ปิดสำนักงานเขต ไม่ได้เป็นคนคล้องประตู ไม่ได้ปิดถนน พวกคุณก็อยู่ด้วยวันนั้น แล้วหลวงปู่ไปละเมิดสิทธิตรงไหน อย่างนี้ถือว่าหลวงปู่และผู้ชุมนุมเป็นฝ่ายถูกละเมิดสิทธิ
ทั้งนี้ วันพรุ่งนี้ทั้งสองหน่วยงานจะเริ่มกลับเข้าทำงาน (ที่จริงหลวงปู่อยากให้เริ่มวันนี้เลยด้วยซ้ำ) และวันพุธนี้ หลวงปู่จะนำเอกสารเข้าเกี่ยวกับเรื่องที่ถูกฟ้อง เข้าไปร้องเรียนกับทั้งสองหน่วยงาน ตำรวจใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ และได้ถามกลับไปว่า พวกคุณไม่อยากปฏิรูปบ้างหรือ
การใช้คำว่าต้องเป็นกลาง บางทีมันก็ใจดำเหมือนกัน ต้องคิดให้ได้ว่า ผู้มีอำนาจกดขี่ผู้ไม่มีอำนาจ ก็ต้องเข้าข้างผู้ไม่มีอำนาจไว้ก่อน เพราะไม่มีประชาชนคนไหนไปกดขี่รัฐบาลได้ ไม่มีกำลังทรัพย์ที่จะไปต่อสู้
#########
หลวงปู่ :
ขอให้การเจรจามีความจริงใจต่อกัน เพื่อให้ประเทศชาติชนะ ประชาชนชนะ ที่ผ่านมายังไม่ทราบข้อเรียกร้องอันใดเลย คุณบอกผ่านโทรโข่งแล้วเอากำลังมาหลายกองร้อยนั่นเขาไม่เรียกว่าการเจรจา หวังว่าคุณจะเข้าใจความรู้สึกของเรา แถมยังมีมวลชนคนเสื้อแดงมาอีกต่างหาก การมานั่งเจรจา น่าจะได้ผลดีมากกว่าการเอากำลังและมวลชนมากดดันกัน นั่นไม่ใช้บรรยากาศการเจรจา แต่เป็นการข่มขู่คุกคามกันมากกว่า แม้ DSI ฉันก็สนใจเจรจา ถ้ารับเอาคดีชาวนาเป็นคดีพิเศษ หากสนใจฉันจะนัดพี่น้องชาวนามาคุยกับเขาได้ Continue reading “#หลวงปู่ # แจ้งวัฒนะ #CHAENG WATTANA #PROTEST”
democracy for burma 
You must be logged in to post a comment.