#EOD # 22 มี.ค #crime #เหตุเพลิงไหม้และ #พบ #วัตถุระเบิด ที่ #แจ้งวัฒนะ!!

เสาร์ 22/3/57….(ไฟไหม้รถจอดหน้าบ้าน ซ.13 แจ้งวัฒนะ)

05.45 น. อาสาสมัครบางโพ สองห้อง ดอนเมืองและอีกมากมาย ว.10 ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้รถยนต์ พร้อมเสียงระเบิดยางรถดังสนั่น ภายในซอยแจ้งวัฒนะ 13

เบื้องต้นเพลิงลุกไหม้รถคันดังกล่าวเสียหายทั้งคัน ส่วนข้อมูลรถ ยังไม่ทราบยี่ห้อ สีและทะเบียน ขณะนี้รถน้ำสถานีดับเพลิงลาดยาว ถึงที่เกิดเหตุใช้น้ำ 1 หัวฉีดน้ำ ทำการดับเพลิง ไฟรถได้สงบแล้วเมื่อเวลา 06.10 น.

จากเหตุการนี้ทำให้พี่น้องการด์พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร ที่เข้าเวรภายในบริเวณใกล้เคียงออกมาดูเป็นจำนวนสิบกว่าคน เนื่องจากมีเสียงระเบิดน่าจะมาจากยางล้อรถยนต์

ภาพ..ป่อเต็กติ๊ง จุดบางโพ

อันนี้ทะเบียนรถที่เกิดเหตุค่ะ

เหตุเพลิงไหม้และพบวัตถุระเบิด ที่แจ้งวัฒนะ!!

1. วันที่เกิดเหตุ 22 มี.ค.57 เวลาประมาณ 05.00 น.
2. สถานที่เกิดเหตุ ซ.แจ้งวัฒนะ 13 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทมฯ
3. ผู้ต้องหา ยังไม่ทราบตัวผู้กระทำความผิด
4. พฤติการณ์ ตามวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุมีรถยนต์ โตโยต้า รุ่น โคโรล่า สีบรอนด์ ทะเบียน กร 1993 กรุงเทพฯ ถูกไฟไหม้ต่อมามีเสียงระเบิด เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ EOD ตรวจสอบพบเป็นระเบิดแสวงเครื่องอยู่ในรถจำนวน3ลูก

2 ลูก เป็นถังดับเพลิงระเบิดแล้ว ส่วนอีก1 ลูกเป็นระเบิดบรรจุในถังแก็สหุงต้ม 15 ก.ก. ยังไม่ระเบิด โดยจนท.EOD ได้ทำการเก็บกู้แล้ว

 

17/3/57 #CRIME 10.08 น. #เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด #EOD #เตรียมเข้าตรวจสอบเหตุหน้าสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการ ถนนรัชดาภิเษก

08.30 น. สน.พหลโยธิน แจ้งปิดการจราจร ชั่วคราว หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ทั้ง 2 ฝั่ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD เข้าตรวจพิสูจน์วัตถุต้องสงสัย

 

17/3/57 << ข่าวต่อเนื่องนะ >>

10.08 น. EOD เข้าทำลายวัตถุต้องสงสัยชิ้นที่ 2 แล้ว บริเวณหน้าสถาบันพัฒนาข้าราชการตุลาการ แถวพิพิธภัณฑ์ศาล…ระบุเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง

09.00 น. EOD ใช้ปืนแรงดันน้ำยิงทำลายวัตถุต้องสงสัยหน้า สนง.อัยการสูงสุด ระบุเป็นชนิดแสวงเครื่อง แบบที่พบทางภาคใต้ ตั้งเวลาทำลาย 09.15 น. ระยะทำลาย 20-40 เมตร

09.50 น. ปิด รัชดาฯ ขาออกหน้าศาลอาญา ทุกช่องทาง หลังพบวัตถุต้องสงสัยอีก 1 จุด บริเวณหน้าสถาบันพัฒนาข้าราชการตุลาการ แถวพิพิธภัณฑ์ศาล

09.57 น. EOD เตรียมเก็บกู้วัตถุต้องสงสัยชิ้นที่ 2 โดยใช้ปืนแรงดันน้ำ

10.08 น. EOD เข้าทำลายวัตถุต้องสงสัยชิ้นที่ 2 แล้ว บริเวณหน้าสถาบันพัฒนาข้าราชการตุลาการ แถวพิพิธภัณฑ์ศาล…ระบุเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง

## สนง.อัยการสูงสุด เป็นนาฬิกาปลุกพันเทปสายไฟ และถังดับเพลิงหนัก 15 กก. >……..:ซึ่งมีลำดับเหตุการณ์ข้างล่าง..ดังนี้

06.50 น. จนท.กวาดขยะ กทม. พบวัตถุต้องสงสัยเป็นนาฬิกาปลุกพันด้วยเทป ในถังขยะบริเวณป้ายแท็กซี่อัจฉริยะ หน้าสนง.อัยการสูงสุด รัชดาฯ เมืี่อเวลา 06.00น.

07.30 น.สน.พหลฯ ปิดการจราจรรัชดาฯหน้า สนง.อัยการสูงสุด 2 ช่องทางทั้งขาออกและขาเข้า ตร.+ทหาร เข้าพื้นที่แล้วรอ EOD

08.35 น. EOD.ถึงที่เกิดเหตุหน้า สนง.อัยการสูงสุด รัชดาฯ

09.00 น. EOD ใช้ปืนแรงดันน้ำยิงทำลายวัตถุต้องสงสัยหน้า สนง.อัยการสูงสุด ระบุเป็นชนิดแสวงเครื่อง แบบที่พบทางภาคใต้ ตั้งเวลาทำลาย 09.15 น. ระยะทำลาย 20-40 เมตร

09.30 น. พบวัตถุต้องสงสัยอีกหนึ่งเหตุ บริเวณหน้าสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการ ถนนรัชดาภิเษก เป็นถังดับเพลิงหนัก 15 กก.

10.08 น. EOD เข้าทำลายวัตถุต้องสงสัยชิ้นที่ 2 แล้ว บริเวณหน้าสถาบันพัฒนาข้าราชการตุลาการ แถวพิพิธภัณฑ์ศาล…ระบุเป็นระเบิดชนิดแสวงเครื่อง

#ด่านความ #มั่นคงบริเวณ #หลังสวน #จับผู้ต้องหาพร้อมอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนจำนวนมาก!!!

Two special warfare soldiers from Lopburi were arrested by Lumphini station police after they drove past a security checkpoint last night.

The two were identified as Sergeant  Pisanu Fuengrung, 25, and  Lance Corporal Natawut Cherdsungnern, 23. Both are attached to  Lopburi-based Special Warfare Battalion.

Lumphini police said that the two soldiers were in a pickup truck and was driving past a security checkpoint on Langsuan road in Lumphini area.

วันเวลาเกิดเหตุ: วันที่ 9 มี.ค.2557 เวลาประมาณ 23.05 น.

สถานที่จับกุม: ด่านความมั่นคง บริเวณกลางซอยหลังสวน ถ.หลังสวน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กทม.

ผู้ต้องหา:

1.สิบตรี ณัฐวุฒิ เชิดสูงเนิน อายุ 23 ปี สังกัด ร.31 รอ.(ลพบุรี)
2.สิบเอก พิษณุ เฟื่องรุ้ง อายุ 25 ปี สังกัด ร.31 รอ. (ลพบุรี)

พร้อมของกลาง
1.อาวุธปืนเล็กยาว เอ็ม 16 เอ 1 จำนวน 1 กระบอก
2.ซองกระสุนปืน เอ็ม 16 ขนาด 20 นัด จำนวน 1 ซอง
3.ซองกระสุนปืน เอ็ม 16 ขนาด 30 นัด จำนวน 1 ซอง
4.แก๊สน้ำตา จำนวน 2 ลูก
5.ปืนพกสั้น ยี่ห้อคิมเบอร์ รุ่นคัสทอม 2 จำนวน 1 กระบอก
6.กระสุนปืน ขนาด .45 มม. จำนวน 7 นัด

#ประชาชน #แจ้งความ 2 #ราย ที่ #สน. #ลุมพินี จากเหตุคนร้ายยิงปืนมาจากสวนลุมพินี

ประชาชนแจ้งความ 2 ราย ที่ สน.ลุมพินี จากเหตุคนร้ายยิงปืนมาจากสวนลุมพินี

เมื่อวันที่ 7 มี.ค.2557 ทาง สน.ลุมพินี ได้รับแจ้งความ 2 เหตุการณ์ ดังนี้

เหตุที่ 1 เมื่อเวลาประมาณ 01.20 น. ขณะที่ น.ส.พวงเพชร โหราเรือง อายุ 32 ปี เดินทางกลับจากการทำงานที่ ร.ร.คอนราด มาตามทางถนนวิทยุ และได้เดินเลี้ยวเข้าซอย โปโล ได้ยินเสียงปืนดังมาจากด้านประตูสวนลุมพินี ถนนวิทยุ จำนวนหลายครั้ง เป็นเหตุให้ น.ส.พวงเพชรฯได้รับบาดเจ็บที่บริเวณข้อมือซ้าย

เหตุที่ 2 เมื่อเวลาประมาณ 02.50 น. ขณะที่ นายวัชรพล โครตแสวง ขับรถแท็กซี่ ทะเบียน ทษ-4246 กทม. จากแยกวิทยุ มุ่งหน้าแยกสารสิน มาตามถนนวิทยุ เมื่อมาถึงบริเวณประตู 1 สวนลุมพินี ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด และมองเห็นประกายไฟด้านซ้ายมือ และเห็นกระจกประตูด้านขวามือแตก จากนั้นรู้สึกเจ็บบริเวณที่ข้อศอกซ้าย จึงรีบขับรถไปถึงแยกเพลินจิตและจอดรถ จากการตรวจสอบรถยนต์ พบว่ามีรอยกระสุนปืนที่บริเวณประตูทางซ้ายมือจำนวน 1 รู ที่ทะลุเข้าไปในรถและมีรอยกระสุนปืนกระจากอยู่ที่บริเวณประตูด้านซ้ายจำนวน หลายจุด ส่วนนายวัชรพลฯได้รับบาดเจ็บบริเวณที่ข้อศอกซ้าย

จากเหตุกาณ์ทั้ง 2 เหตุ ทาง ตร. ได้กำชับให้ ฝ่ายสืบสวน สน.ลุมพินี เร่งรัดสืบสวนเหตุดังกล่าวและกำชับการปฏิบัติของด่านตรวจโดยรอบ เพื่อป้องกันเหตุร้าย และเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน

#กรณีเหตุระเบิดศาลอาญา #เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด #EOD เข้าเก็บกู้วัตถุระเบิดเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้รอเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐาน มาตรวจสถานที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บพยานหลักฐานต่อไป

11.47 น. กรณีเหตุระเบิดศาลอาญา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุด EOD เข้าเก็บกู้วัตถุระเบิดเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้รอเจ้าหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐาน มาตรวจสถานที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บพยานหลักฐานต่อไป

 

เพิ่มเติมกรณีเหตุระเบิดศาลอาญา
วันนี้ 3 มี.ค.57 เวลาประมาณ 10.25 น. มีคนร้ายปาระเบิดจำนวน 2 ลูก ใกล้ประตูทางออกศาลอาญา เบื้องต้น ลูกแรกตกนอกรั้ว ที่ฟุตบาธ ระเบิดทำงานไม่สมบูรณ์ อีกลูกตกที่ลานจอดรถเจ้าหน้าที่ แต่ระเบิดไม่ทำงาน ขณะนี้รอเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD ตรวจสอบ

เบื้องต้นบริเวณที่เกิดเหตุ มีพยานเป็นเจ้าหน้าที่ทหาร
1. ส.ท.อำนาจ โพเทพา สังกัดกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสุ้อากาศยาน
2. ส.อ.ประสิทธิ์ กลิ่นกุหลาบ สังกัดกองพลทหารปืนใหญ่ต่อสุ้อากาศยาน

ให้การว่า ขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณหน้าประตุทางเข้าศาลอาญา
เห็น จยย.ยามาฮ่า ฟีโน่ สีชมพุ คนขับใส่หมวกกันน็อคครึ่งใบ คนซ้อนสวมเสื้อแขนยาวสีดำ สวมหมวกใอ้โม่ง ปาระเบิด จากนั้นหลบหนีเข้า ซอยแคบระหว่างปั้มกับอัยการ

#ความคืบหน้าคดี #ระเบิดที่ #BIG C #ราชดำริ #ฝ่ายสืบสวน

ความคืบหน้าคดีระเบิดที่ BIG C ราชดำริ

ฝ่ายสืบสวน
จากผลการตรวจวิถีกระสุนจากผู้เชี่ยวชาญ พบว่ามาจากด้านบริเวณแยกประตูน้ำ จึงดำเนินการ
– ตรวจสอบอาคารสูง หาจุดที่สามารถก่อเหตุได้ และกล้องวงจรปิดภายในอาคารสูง
– กรณีโรงแรม ขอข้อมูลผู้เข้าพัก เพื่อนำมาวิเคราะห์
– ลงพื้นที่หาข้อมูล และพยานบุคคลที่ทราบเหตุการณ์
– ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทุกชนิด ที่อยู่ในพื้นที่รัศมีกระสุนระเบิด

เบื้องต้นสัณณิฐานได้ 6 จุด คือ ที่โรงแรมโนโวเทล , ห้างพาราเดียน ,ห้างแพททินั่ม , โรงแรมแกรนไดมอน,ชุมชนหลังวัดปทุมวนาราม, ชุมชนหลังบิ๊กซี

และเชื่อว่าคนร้ายน่าใช้ ระเบิด M79 หรือ M203 ซึ่งยิงโดยเครื่องยิงลูกระเบิด ในลักษณะวิถีโค้ง มาจากทางทิศเหนือ ฝั่งประตูน้ำ ตามภาพฉาย

ในคดีดังกล่าวทางพนักงานสอบสวนได้สอบสวนปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ จำนวน 25 ปาก

The blast case progress BIG C rajdamri

#ราย ละเอียดการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ #กระทรวงพลังงาน และบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ด้วย เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๗ เวลากลางวัน ผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส. ประมาณ ๒๐๐ คน

รายละเอียดการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ กระทรวงพลังงาน และบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)

ด้วย เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๗ เวลากลางวัน ผู้ชุมนุมกลุ่ม กปปส. ประมาณ ๒๐๐ คน โดยมีนายแพทย์ ระวี มาศมาดล (ผู้ต้องหาที่ ๑ )และ นายทศพล แก้วธิมา (ผู้ต้องหาที่ ๒) เป็นแกนนำ ได้ใช้รถยนต์บรรทุกของกลางติดเครื่องขยายเสียงดัดแปลงเป็นเวทีปราศรัยโจมตีเกี่ยวกับราคาพลังงาน บริเวณหน้ากระทรวงพลังงาน ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ต่อมาในช่วงเย็นของวันเดียวกันกลุ่มผู้ชุมนุมดังกล่าวได้บุกเข้าไปยึดพื้นที่ภายในของกระทรวงพลังงาน ทำให้เจ้าหน้าที่ของกระทรวงฯ ไม่สามารถเข้าไปปฏิบัติงานได้

และต่อมาเมื่อวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๗ เวลาประมาณ ๐๓.๔๐ นาฬิกา กลุ่มผู้ชุมนุมได้ย้ายที่ชุมนุม
มาที่ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ทำการกีดขวางทางเข้าออกของ บริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ขัดขวางการประกอบกิจการหรือการใช้ชีวิตโดยปกติสุขของเจ้าหน้าที่ ปตท.และของประชาชนโดยทั่วไป โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้คล้องโซ่ปิดประตูทางเข้าออกของบริษัท ปตท. จำกัด(มหาชน) ทำการขัดขวางมิให้เจ้าหน้าที่ของ ปตท. หรือประชาชนโดยทั่วไปเข้าปฏิบัติหน้าที่หรือทำธุรกรรมกับ ปตท.ได้ การกระทำของผู้ชุมนุมกลุ่มดังกล่าวทำให้ ปตท. ได้รับความเสียหาย กลุ่มผู้ชุมนุมได้ใช้เวทีติดตั้งเครื่องขยายเสียงกำลังสูงประกอบการปราศรัยชุมนุมโดยไม่ได้รับอนุญาต และต่อมาได้มีประกาศของศูนย์รักษาความสงบ ฉบับที่ ๓/๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๗ ออกตามความในมาตรา ๙ ประกอบมาตรา ๑๑ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๘ ห้ามมิให้มีการชุมนุมหรือมั่วสุม ต่อมาวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เจ้าหน้าที่ตำรวจตามบันทึกจับกุมได้แจ้งให้กลุ่มผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ของสำนักงาน ปตท.(สำนักงานใหญ่)เพื่อให้เกิดความสงบและไม่เกิดความเดือดร้อนแก่ประชาชน แต่กลุ่มผู้ชุมนุมขัดขืนไม่ยอมออกไปจากพื้นที่ของสำนักงาน ปตท.(สำนักงานใหญ่)
การกระทำของ ผู้ต้องหาที่ ๑ ผู้ต้องหาที่ ๒ เป็นความฐาน ร่วมกันเป็นหัวหน้า หรือเป็นผู้มีหน้าที่สั่งการในการกระทำความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป กระทำการให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมดังกล่าวให้เลิก แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๑๕ และมาตรา ๒๑๖ และฐานชุมนุมมั่วสุมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป ในพื้นที่ที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความรุนแรง อันมีลักษณะกีดขวางทางเข้าออกของอาคารหรือสถานที่อันเป็นการขัดขวางการปฏิบัติงาน หรือการใช้ชีวิตโดยปกติสุขของประชาชนโดยทั่วไป , ขัดขืนคำสั่งของเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สั่งการเกี่ยวกับการชุมนุม เพื่อให้เป็นไปโดยสงบและไม่เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชน และใช้เครื่องขยายเสียง หรือใช้เวทีติดตั้งเครื่องขยายเสียง หรือใช้ยานพาหนะติดตั้งเครื่องขยายเสียง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามประกาศของศูนย์รักษาความสงบ ฉบับที่ ๓ / ๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๗ ข้อ ๑ ( ๒ ) , ( ๔ ) และ ( ๕ ) ออกตามความในมาตรา ๙ ประกอบมาตรา ๑๑ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๘
ผู้ต้องหาที่ ๓ ถึงที่ ๑๔๔ กระทำความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป กระทำการให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมดังกล่าวให้เลิก แต่กลุ่มผู้ชุมนุมไม่เลิก ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๒๑๕ และมาตรา ๒๑๖ และฐานชุมนุมมั่วสุมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป ในพื้นที่ที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความรุนแรง อันมีลักษณะกีดขวางทางเข้าออกของอาคารหรือสถานที่อันเป็นการขัดขวางการปฏิบัติงาน หรือการใช้ชีวิตโดยปกติสุขของประชาชนโดยทั่วไป , ขัดขืนคำสั่งของเจ้า

พนักงานเจ้าหน้าที่ที่สั่งการเกี่ยวกับการชุมนุม เพื่อให้เป็นไปโดยสงบและไม่เกิดความเดือดร้อนต่อประชาชน และใช้เครื่องขยายเสียงหรือใช้เวทีติดตั้งเครื่องขยายเสียง หรือใช้ยานพาหนะติดตั้งเครื่องขยายเสียง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามประกาศของศูนย์รักษาความสงบ ฉบับที่ ๓ / ๒๕๕๗ ลงวันที่ ๒๕ มกราคม ๒๕๕๗ ข้อ ๑ ( ๒ ) , ( ๔ ) และ ( ๕ ) ออกตามความในมาตรา ๙ ประกอบมาตรา ๑๑ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๘
นอกจากนั้นเมื่อวันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ได้มีบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ได้มาแจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่ ๑ – ๑๔๔ ในความผิดฐานบุกรุกในเวลากลางคืน ซึ่งพนักงานสอบสวนได้รับคำร้องทุกข์ไว้ตามคดีอาญาที่ ๑๓๐/๒๕๕๗ ดังนั้นพนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมให้ผู้ต้องหาทราบเพิ่มเติมอีกว่ากระทำผิดฐาน ร่วมกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปบุกรุกในเวลากลางคืน

และได้แจ้งสิทธิของผู้ต้องหาให้ผู้ต้องหาทุกนายได้รับทราบ

เหตุเกิดที่ กระทรวงพลังงาน และบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
เมื่อระหว่างวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๕๗ เวลากลางวัน ถึงวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ เวลา ๐๘.๐๐ น.

Details to prosecute protesters group, Ministry of energy and the PTT public company limited.

!!! ด่วน!! จับการ์ด กปปส. ใส่เครื่องแบบตำรวจควบคุมฝูงชน ปลอมตัว พกอาวุธปืน กระสุนปืนเพียบ!!

ด่วน!! จับการ์ด กปปส. ใส่เครื่องแบบตำรวจควบคุมฝูงชน ปลอมตัว พกอาวุธปืน กระสุนปืนเพียบ!!

วันนี้ 13 ก.พ.57 เวลา ประมาณ 18.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.น7 จับกุม นายไตรฉัตร จันทร์ทองสุข อายุ 37 ปี พร้อมของกลาง
1.อาวุธปืน ลูกซองสั้น ไทยประดิษฐ์ 1กระบอก.
2.อาวุธปืน พกสั้น ขนาด .38 1 กระบอก.
3. กระสุนปืน .38. จำนวน 13 นัด.
4.กระสุนปืน ลูกซอง 3 นัด

ขณะจับกุม ผู้ต้องหาใส่เคื่องแบบชุด คฝ.บก.น.6 ใส่หมวกสายตรวจ ขับขี่ จยย.ฮอนด้า สีแดงขาว-น้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ในซอยสวนผัก 44 ออกจากห้องเช่าเพื่อไปเวทีปทุมวัน

ทั้งนี้ กก.สส.บก.น.7 จะมีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ วันนี้ 13 ก.พ.57 เวลา 20.00 น. ณ บก.น.7

!!! เกิดเหคุคนร้ายยิงปืนใส่บ้านสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. เกิดเหตุคนร้ายยิงปืนเข้าใส่บ้านเลขที่

เกิดเหคุคนร้ายยิงปืนใส่บ้านสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล

เมื่อเวลาประมาณ 12.30 น. เกิดเหตุคนร้ายยิงปืนเข้าใส่บ้านเลขที่
เลขที่ 144/147 ม.นันทวัน แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ซึ่งเป็นบ้านพักของ นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ซึ่งขณะเกิดเหตุนายสมศักดิ์ฯพักอาศัยอยูภายในบ้าน

จนท.ตร.สน.คันนายาวได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ มีทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหายเบื้องต้น
คือรถวีออส สียอร์ดเงิน ทะเบียน ศษ-1386 กทม. และกระจกภายในบ้าน ได้รับความเสียหายจากกระสุนปืน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ขณะนี้รอทาง จนท.พฐ.มาตรวจที่เกิดเหตุเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆในที่เกิดเหตุต่อไป

 

#############

เวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 12 ก.พ. มีรายงานว่า นายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล อาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กhttp://www.facebook.com/somsakjeam ระบุว่า “เมื่อครู่นี้ มีคนร้าย 2 คนบุกเข้ามายิงใส่รถและบ้านผม (ทั้งด้วยกระสุนจริงกระสุนยาง) ขว้างก้อนอิฐใส่บ้าน ฯลฯ ขณะผมอยู่ในบ้าน และต่อหน้าเพื่อนบ้านหลายคน”

รอยกระสุนทะลุกระจกหน้าบ้านเข้ามา ระดับหัวผมพอดี (แต่กระสุนโดนมุ้งลวดแฉลบไปโดนตู้หนังสือ กระจกตู้แตก)

รอยกระสุนทะลุกระจกหน้าบ้านเข้ามา ระดับหัวผมพอดี (แต่กระสุนโดนมุ้งลวดแฉลบไปโดนตู้หนังสือ กระจกตู้แตก)

#SHUTDOWN #BANGKOK #เพิ่มเติม #รายงาน เหตุระเบิดใกล้แยกป้อมมหากาฬ!!11:00 เกิดเหตุระเบิดบริเวณเกาะกลางถนนราชดำเนิน

Update เพิ่มเติม รายงานเหตุระเบิดใกล้แยกป้อมมหากาฬ!!

รายชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 6 ราย เป็น ช.4 ราย ญ.2 ราย กู้ภัย นำส่ง ร.พ.วชิระพยาบาล

1.นาย ไพสาร ภู่เทียน อายุ 30 ปี (สาหัส)

2.นาง กนกพร เนรักษา อายุ 53 ปี (สาหัส)

3.นาย บุญน้อย แสงดาว อายุ 53 ปี (เล็กน้อย)

4.นาย บุญชู สินสมบัตร อายุ 51 ปี (เล็กน้อย)

5.นาง พิชริน กิจมั่น อายุ 55 ปี (เล็กน้อย)

6.นาย วันธวัช เรมานุพันธ์ อายุ 23 ปี (เล็กน้อย)

11:00 เกิดเหตุระเบิดบริเวณเกาะกลางถนนราชดำเนิน หน้าเทเวทประกันภัย ไม่ทราบชนิด ระเบิดขณะเจ้าหน้า กทม. เข้าเคลีย กองยาง
มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ได้รับการปฐมพยาบาล ปลอดภัยแล้ว CREDIT jatupol.janya

คืบหน้าเหตุระเบิดบริเวณ สะพานผ่านฟ้า เวที กปท. – กองทัพธรรม”ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เหตุเกิดที่เกาะกลางถนน ใต้พระบรมฉายาลักษณ์ฯ บริเวณแยกสะพานผ่านฟ้า โดย จนท.กทม. อยู่ระหว่างนั่งพักรอเพื่อนที่บริเวณดังกล่าว

ระหว่างนั้น จนท.กทม. ได้ล้วงมือเข้าไปใต้แผ่นไม้อัดของเกาะกลางถนน และกระทบถูกระเบิด วัตถุดังกล่าวจึงเกิดระเบิดขึ้น

เบื้องต้นพบว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่อง โดยมีเศษหิน, เศษลูกปืน และพลาสติก เป็นส่วนประกอบ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 6 คน สาหัส 2 ราย นำส่ง ร.พ.วิชระ แล้ว”

/Cr .ภาพ Nattanakul Somsak