#37 #กรุงเทพ – #สุไหงโกลก #คำชี้แจง.. #รฟท.!! #ตรวจสอบข้อเท็จจริง #กรณี #โทรศัพท์..

การรถไฟฯ กำหนดมาตรการป้องกันการโจรกรรมทรัพย์สินบนขบวนรถไฟ
นายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รองผู้ว่าการฯ รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟฯ เผยมาตรการป้องกันหลังการประชุมร่วมกับผู้บริหาร และตำรวจรถไฟ กรณีเกิดเหตุโจรกรรมโทรศัพท์แบบพกพาของผู้โดยสารบนขบวนรถด่วนที่ 37 (กรุงเทพ – สุไหงโก-ลก) ในรถนั่งและนอนปรับอากาศ คันที่ 10 ส่วนรถ Ladies and Children Car เป็นคันที่ 11/1 ซึ่งอยู่ห่างจากคันดังกล่าวไปอีก 2 คัน โดยมีรถนั่งและนอนปรับอากาศคันที่ 11 คั่นอยู่
ทั้งนี้ หลังจากที่ฝ่ายการเดินรถได้เข้มงวดมาตรการปิดล็อคตู้รถนอนบนขบวนรถตั้งแต่ เวลา 22.00 น. และให้พนักงานรักษารถ เดินตรวจทุก 2 ชม. เพื่อป้องกันมิจฉาชีพหรือเหตุอื่นที่เกิดขึ้นภายในตู้นั้น อาจเป็นเหตุให้มิจฉาชีพแฝงตัวเป็นผู้โดยสารเข้ามาโจรกรรมสิ่งของภายในรถ จึงได้หารือกับผู้เกี่ยวข้องพิจารณายกระดับการรักษาความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสารดังนี้
1. ให้พนักงานขบวนรถประชาสัมพันธ์ให้ผู้โดยสารระมัดระวังทรัพย์สินของตน อย่าไว้ใจคนแปลกหน้า หากมีเหตุอันใดให้แจ้งพนักงาน หรือตำรวจรถไฟบนขบวนรถทันที
2. ให้พนักงานรักษารถ พร้อมตำรวจรถไฟ จำนวน 2 นาย ออกตรวจบนขบวนรถทุก 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 24.00 – 05.00 น. โดยแจ้งประกาศให้ผู้โดยสารทราบก่อน และไม่ทำให้รบกวนผู้โดยสาร
3. ประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือผู้โดยสาร เมื่อซื้อตั๋วโดยสารกรุณาแจ้งชื่อ และเลขบัตรประชาชนให้ตรงกับผู้ที่จะเดินทาง ในชั้นแรก หากผู้เดินทางจริงไม่ตรงกับที่ระบุในตั๋ว พนักงานจะเปลี่ยนชื่อให้ตรงกับบัตรประชาชนของผู้เดินทางจริง ทั้งในตั๋วของผู้โดยสารและผังที่นั่งของพนักงานบนขบวนรถ เพื่อให้ตรวจสอบได้ในภายหลัง
4. ในขั้นตอนต่อไป การรถไฟฯ จะออกระเบียบให้ผู้โดยสารที่ต้องการซื้อตั๋วโดยสารรถไฟ ต้องแจ้งชื่อและเลขบัตรประชาชน ตั๋วโดยสารหนึ่งใบต่อชื่อและเลขบัตรประชาชนหนึ่งท่านเท่านั้น
5. การพิจารณาติดกล้อง CCTV บนขบวนรถ หากทดสอบแล้วระบบสามารถรองรับการสั่นสะเทือนของตัวรถขณะวิ่งได้ ก็จะดำเนินการต่อไป
ส่วนในรูปคดี หลังเกิดเหตุเป็นช่วงเวลา 03.00 น. ที่ไม่มีผู้โดยสารขึ้นลง กรณีที่ผู้โดยสารรู้สึกว่ามีอาการเหมือนโดนวางยาสลบนั้น ต้องรอผลการสอบสวนจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในส่วนของพนักงานการรถไฟฯ ได้สั่งให้พนักงานรักษารถ พนักงานห้ามล้อ 2 คน และพนักงานในคันที่เกิดเหตุ รวม 4 คน ลงให้ปากคำที่สถานีหาดใหญ่ และสั่งให้พักการขึ้นปฏิบัติงานบนขบวนรถไว้ก่อน จนกว่าผลการสอบสวนจะเสร็จสิ้น
ซึ่งรักษาการผู้ว่าการรถไฟฯ ได้กล่าวแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้งที่ได้วางมาตรการให้รัดกุมเพื่อป้องกันความปลอดภัยแก่ผู้โดยสารแล้ว แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก ก็ต้องพยายามหาวิธีการและเครื่องมือหรือเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้ผู้โดยสารปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
******************************
ส่วนนี้จากผู้เสียหาย เราไม่ได้เอาตาม นสพ.ทุกฉบับ,ทุกสื่อ เราเจาะข้อมูลจากผู้เสียหายกันจริงๆ – พรุ่งนี้เราจะตามประเด็นเรื่องโดนยาหรือป่าว ต้องตรวจสอบถามผลจากแพทย์พรุ่งนี้ …ส่วนที่ จนท.ตร.รถไฟ ปฏิเสธฯกันเสียงแข็งว่าไม่มีโดนยา…ซึ่งผู้เสียหายทุกคนมีคำถามมาว่า เป็นไปได้งัย.. คือผู้เสียหายได้วางโทรศัพท์อยู่ใต้เบาะหมอนถูกล้วงไปได้งัย โดยไม่รู้สึกตัว แถมนอนก็นอนตี 3 พร้อมกันหมด ตื่นก็ตี 5 กว่าพร้อมกันหมด ผ้าม่านที่นอนถูกเปิดแง้ม กระเป๋าบนที่นอนถูกรื้อ ขณะที่การรื้อค้นกระเป๋าและหยิบมือถือไป ต้องเอื้อมข้ามศีรษะไปหยิบบ้าง เอื้อมไปใต้หมอนบ้าง กลับไม่มีใครรู้สึกตัว ซึ่งรวมถึงทหารพรานที่นั่งในโบกี้เดียวกันก็ไม่รูสึกตัวแถมหยิบกระเป๋าเงินเค้าไปด้วย.. ทั้งที่ตู้นั่นก็มีแต่ข้าราชการครู,นักเรียน และจนท.อส.ทหารพราน เป็นส่วนใหญ่เป็นผู้มีวุฒิภาวะกันทั้งนั่น ไม่ใช่สาวๆวัยรุ่นกัน อารัยมีเหตุที่ทำให้ทั้งตู้โดยสารตู้นี้หลับกันหมดโดยไม่รู้สึกตัวบ้างเรย….ไม่ใช่ว่าตำรวจรถไฟ นึกพูดอารัยก็พูดเพื่อออกข่าวปัดความรับผิดชอบของตัวเอง..เราขอยืนยันทรัพย์สินที่สูญหายมากกว่าหลักแสน!! CR. CATHAY MEE

10577155_614505501996257_1082799124578362307_n10527811_614504908662983_7983572676111828973_n

คำชี้แจง..รฟท.!! ตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณี โทรศัพท์และกระเป๋าตังค์ของผู้โดยสารบนขบวนรถด่วนสายใต้ขบวนที่ 37 ตู้ที่ 10 สูญหาย.. (แถมผู้เสียหายนอนหลับไม่รู้สึกตัวทั้งตู้โบกี้ เหมือนคล้ายๆโดนวางยา เหตุเกิดประมาณตี 4 เช้านี้)

นายทนงศักดิ์ พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายการเดินรถ การรถไฟแห่งประเทศไทย เผย ได้รับแจ้งเหตุโจรกรรมโทรศัพท์แบบพกพาของผู้โดยสารบนขบวนรถด่วนที่ 37 (กรุงเทพ – สุไหงโก-ลก) รถนั่งและนอนปรับอากาศ คันที่ 10 (ซึ่งไม่ใช่รถ Ladies and Children Car) สูญหายนับสิบรายบนขบวนรถ ซึ่งคนร้ายได้ถอดซิมการ์ดทิ้งเอาไว้ เอาไปเฉพาะตัวเครื่องโทรศัพท์ และกระเป๋าตังค์เล็กๆ (รวมมูลค่าทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท)

เบื้องต้นได้ประสานงานกับผู้บังคับการตำรวจรถไฟ จัดส่งรายชื่อและเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก ของพนักงานและผู้โดยสารทุกคนบนตู้ดังกล่าว เพื่อตรวจสอบ รวมทั้งสั่งการให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามสถานีรายทาง ตลอดจนสอบสวนพนักงานบนขบวนรถที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาข้อเท็จจริง และได้รายงานให้นายประเสริฐ อัตตะนันทน์ รักษาการในตำแหน่ง ผู้ว่าการรถไฟฯ ทราบแล้ว

ทั้งนี้ การรถไฟฯ และตำรวจรถไฟไม่ได้นิ่งนอนใจเร่งให้ผู้เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบ เมื่อมีความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป
EyWwB5WU57MYnKOuFBrCMqcmNvpMaoMIjA2aJhaGPIIGJe9BKoaMZG10568844_614413592005448_6233528464102473643_n10547662_614413568672117_4070234618285659378_n10410211_614413538672120_2747106695332207451_n

รฟท. สายใต้ ฉาวงามใส้!! โทรศัพท์และกระเป๋าตังค์มีค่า หายทั้งตู้โบกี้!!

เกิดคดีประหลาดเช้านี้ บนรถไฟไทยขาลงใต้สุด รถด่วนขบวนพิเศษที่ 37 กทม.-สุไหงโก-ลก พิเศษชั้น 2 ตู้นอนแอร์ โบกี้ที่ 10 ..เมื่อประมาณตี 3 – ตี 4 ได้มีคนร้ายได้ขโมยทรัพย์สินของตู้โบกี้นี้ เป็นของมีค่าพวกโทรศัพท์ไอแพค, ไอโพน ราคาแพงๆ 10 กว่าเครื่อง, และกระเป๋าตังค์(เลือกเอาเฉพาะอันเล็กๆ) เพียงแค่ 1 โบกี้ รวมๆแล้วของที่หาย คิดเป็นเงินคงไม่ต่ำกว่า 2 แสนบาท โดยที่ผู้เสียหายทุกคนไม่รู้สึกตัว ทั้งๆที่ทรัพย์สินถูกรื้อค้น (เหมือนถูกโดนวางยาทั้งตู้โบกี้) กว่าจะรู้สึกตัวก็ช่วงเช้าแล้ว ที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ ประมาณตี 05.30 น. จึงได้แจ้ง จนท.ตรวจสอบค้นหาทรัพย์สินที่สูญหาย (ตามภาพ) ซึ่งผลการตรวจสอบไม่พบทรัพย์สินมีค่าที่หาย (คนร้ายคงไม่โง่ให้เจอของที่ขโมยมานะ)

คดีนี้ผู้เสียหายตั้งข้อสังเกตุ สงสัยพนักงานคนในมาก เนื่องจากในระหว่างนอนหลับ ได้มีการล๊อกแต่ละตู้โบกี้ซึ่งต้องเปิดจากด้านใน หรือใช้กุญแจไข ของพนักงานการรถไฟเอง..แต่ของก็ยังมาสูญหายอีกไปเป็นจำนวนมาก.. คดีนี้จึงได้แค่เรียกร้องความชอบธรรมต่างๆ จากการรถไฟ จะมีวิธีแก้ไขและจัดการยังงัยต่อเหตุการณ์นี้ ในช่วงวิกฤตศรัทธา ต่อ รฟท.!!

รายละเอียดเฟสของผู้เสียหาย และมีผู้เสียหายรายอื่นๆอีกแจ้งมาหลังไมค์ CR.Krudee Foto Freedom

Leave a Reply

Please log in using one of these methods to post your comment:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s