การหายตัวไปของ นายบิลลี่ หรือนายพอละจี รักจงเจริญ อายุ 31 ปี นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เดินทางมาที่ศาลจังหวัดเพชรบุรี เข้ากระบวนการไต่สวนให้ปากคำเพิ่มเติมในฐานะพยาน โดยมีนายคิงสลีย์ แอ๊บบอต ที่ปรึกษากฎหมายระหว่างประเทศ โครงการเอเชีย – แปซิฟิก คณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล และนางอังคณา นีละไพจิตร ภรรยา ทนายสมชาย นีละไพจิตร เข้าร่วมรับฟังการไต่สวนในวันนี้ด้วย
นายชัยวัฒน์เปิดเผย ว่า เพื่อเป็นการยืนยันความบริสุทธิ์ และอำนวยความสะดวกให้เจ้าหน้าที่ๆ ค้นหาตัวนายบิลลี่ได้เสนอต่อนายนิพนธ์ โชติบาลรองอธิบดีรักษาราชการอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ขอย้ายตัวเองออกไปปฏิบัติงานนอกพื้นที่เขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และองค์กรอื่นๆ เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ได้อย่างเต็มที่ โดยอยากให้สังคมพิจารณา สื่อที่ออกไปทั้ง 2 ด้าน ยังมีอีกหลายๆ มุม ที่องค์กรอิสระหลายๆ องค์กรพยายามดำเนินการที่ไม่ถูกต้อง และมีเจตนาซ่อนเร้นที่ไม่ดีต่อป่าแก่งกระจาน และพยายามสร้างแรงกดดันให้ต้องออกนอกพื้นที่เพื่อจะดำเนินการได้สะดวก ทั้งปล่อยข่าวว่ากะเหรี่ยง-กะหร่าง พื้นที่โป่งลึก – บางกลอย อ.แก่งกระจาน อดอยาก ไม่เคยได้รับความดูแลช่วยเหลือจากภาครัฐ รวมถึงกรณีนายบิลลี่หายตัวไป ต้นตอของข่าวทั้งหมดไม่ใช่ชาวบ้านในพื้นที่โป่งลึก – บางกลอย แต่เป็นองค์กรและเป็นคนจาก อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เป็นคนนอกพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งคนเหล่านี้ไม่เคยแม้แต่เข้าไปตรวจสอบหรือลงพื้นที่จริงเลย แต่พยายามกุข่าวและสร้างสถานการณ์ที่เป็นผลเสียต่ออุทยานฯ มาโดยตลอด
หลังการไต่สวนนาน 2 ชม. ศาลได้เลื่อนนัดไต่สวนต่อในวันที่ 2 มิ.ย.2557 โดยทนายความฝ่ายผู้ร้องได้ขอให้ศาลไต่สวนเพิ่มอีก 4 ปาก คือ นักศึกษาฝึกงานที่นายชัยวัฒน์อ้างเป็นพยาน พร้อมด้วย หลานสาวนายบิลลี่ที่อ้างว่าเห็นนายบิลลี่ขี่รถ จยย.ในเย็นวันเกิดเหตุและพนักงานสอบสวนด้วย
democracy for burma 